วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ประวัติมังกรประเภทต่างๆ

ประวัติมังกร 
มังกร (อังกฤษdragon; จากละตินdraco) เป็นสัตว์วิเศษที่รู้จักกันในวรรณคดีของจีนและตะวันตก แม้จะใช้คำว่ามังกร (dragon) เหมือนกัน แต่มังกรของจีนและตะวันตกนั้นสื่อถึงสัตว์ต่างชนิดกัน มังกรของจีนมีรูปร่างลักษณะจัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลานหรืองู ไม่มีปีก แต่สามารถบินไปในอากาศได้ ส่วนมังกรของตะวันตกจะมีขา มีปีกและสามารถพ่นไฟได้
ในตำนานยุโรป มังกรเป็นสัตว์อันตรายและน่าสะพรึงกลัวสำหรับมนุษย์ มังกรจึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าวีรบุรุษทั้งหลาย การฆ่ามังกรและขึ้นเถลิงราชย์เป็นกษัตริย์. มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ ทั้งที่มีตัวตนจริง ๆ และในตำนานต่าง ๆ เช่น กษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งมีนามสกุลว่า Pendragon มีความหมายว่า 'ศีรษะของมังกร' หรือ 'หัวหน้ามังกร' และมงกุฎของกษัตริย์อาเธอร์ ก็เป็นรูปมังกร ส่วนในตำนานจีน มังกรเป็นสัตว์มงคลและมีสถานะเป็นเทพเจ้า เสื้อคลุมมังกร 5 เล็บเป็นเครื่องทรงของที่กษัตริย์สามารถใช้ได้เท่านั้น ส่วนเครื่องทรงที่มีรูปมังกร 4 เล็บจะเป็นชุดสำหรับขุนนาง และ 3 เล็บสำหรับประชาชนทั่วไป
เราพบมังกรได้ง่ายและบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นในตำนานของทางยุโรปหรือเอเชียก็ตาม เรียกว่าที่ใดมีอารยธรรมและตำนาน ที่นั่นก็ต้องมีมังกรเป็นของคู่กัน. มังกรนั้นมีรูปร่างและลักษณะหลายอย่าง แตกต่างไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีจุดเด่นคือ เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ร่างกายใหญ่โต มีพละกำลังมาก บางครั้งอาจพ่นไฟได้ หรือมีอำนาจเวทมนตร์มหาศาล และที่สำคัญคือ บินได้ (อาจจะมีปีกหรือไม่มีก็ได้) โดยขนาดรูปร่างและสีนั้น ก็แตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตาม มังกรที่พบในตำนานของทางยุโรปและของทางเอเชียนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกันในแง่สัญลักษณ์ โดยเฉพาะคติของจีนที่มักจะถือว่า มังกรนั้นคือเทพเจ้า และเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ (ซึ่งเป็นสมมติเทพ) แต่ทางยุโรปนั้นมักจะถือมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย (อันเป็นคติที่สืบทอดมาจากความหวาดกลัวงูของชาวยุโรป)

มังกรจีน

มังกรจีนถือเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิและวัฒนธรรมของประเทศจีนที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง มังกรจีนมีลักษณะที่ผสมผสานมาจากสัตว์หลาย ๆ ชนิด ตั้งแต่มีลำตัวยาวเหมือนงู มีเขี้ยวคู่ใหญ่ที่ขากรรไกรด้านบน มีหนวดยาวเหมือนไม้เลื้อย มีแผงคอคล้ายสิงโตอยู่บน และมีคอ คาง และข้อศอก ที่มีเกล็ดสีเขียวเข้มปกคลุมทั่วทั้งลำตัวหากนับรวมกันได้มากถึง 117 เกล็ด ในจำนวนนี้ เกล็ดมังกรจำนวน 81 แผ่น ถือว่ามีคุณสมบัติเป็นหยาง อันหมายถึงเกล็ดแห่งความดี ส่วานเกล็ดมังกรอีก 36 แผ่นที่เหลือ จะมีคุณสมบัติเป็นหยิน อันหลายถึงเกล็ดแห่งความชั่ว ส่วน เขาของมังกร จะมีลักษณะทอดยาวไปตามหลังจนถึงหาง และมีหนามทั้งยาวและสั้นสลับกันไป มังกรมีขา 4 ขาและแต่ละขาก็มีกรงเล็บที่แข็งแรงไว้สำหรับป้องกันตัวด้วย
ความเชื่อเรื่อง เกล็ดของมังกรจีนจะแปรผันไปตามแต่ละประเภทของมังกร โดยมีตั้งแต่สีเขียวเข้มไปจนถึงสีทอง หรือบางแหล่งก็กล่าวกันว่า แท้จริงแล้ว มังกรจีนมีหลากหลายสี เช่น สีน้ำเงิน สีดำ สีขาว สีแดง สีเขียว หรือสีเหลือง แต่ถ้าเป็นมังกรชนิดไชโอะ (chiao) จะสังเกตได้ว่าส่วนหลังของมังกรตัวนี้จะเป็นสีเขียว บด้านข้างมีสีเหลือง และใต้ท้องของมังกรจะเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งเป็นการผสมผสานหลายๆสีเข้าที่ตัวเดียวกัน มังกรจีนบางชนิดจะมีปีกติดอยู่ข้างลำตัว ทำให้สามารถที่จะเดินไปบนผิวน้ำได้ แต่มังกรจีนบางชนิด สามารถทำให้เกิดเสียงที่ฟังดูเหมือนกับเสียงขลุ่ยได้ เพียงแค่โบกสะบัดแผงคอไปข้างหน้าและข้างหลังเพียงเท่านั้น
มังกรจีนบินบนฟ้าได้เพราะมีโหนกอยู่บนหัว ซึ่งเโหนกที่อยู่บนหัวจะถูกเรียกกันว่า เชด เม่อ (ch’ih muh) แต่หากมังกรจีนตัวใดไม่มีส่วนนี้อยู่บนหัว มันก็จะกำคทาเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า โพ เชน (po-shan) เอาไว้ ซึ่งจะช่วยให้มังกรจีนสามารถลอยตัวอยู่บนอากาศได้นั่นเอง
คนจีนโบราณมีความเชื่อว่า มังกรถือสัตว์ที่มีพละกำลังมาก และทีความศักดิ์สิทธิ์เหนือฟ้าและดิน ส่วนใหญ่จะพบมังกรจีนได้ตามแม่น้ำและทะเลสาบ หรืออยู่ท่ามกลางสายฝน และคนจะพูดกันว่ามังกรจีนมีความเป็นมิตรมากกว่าความเป็นศัตรู และถือเป็นสัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งรอยยิ้มและความสุข อีกทั้งยังทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์แก่บ้านเมืองได้อีกด้วย มังกรถูกยกย่องว่าเป็นผู้สร้างกฎแห่งความใจบุญ และเป็นผู้เสริมสร้างความมั่นใจให้แก่กษัตริย์ในราชวงศ์ชิง ดังจะเห็นได้ว่า กษัตริย์มักจะนั่งบัลลังก์ลายมังกร เดินทางทางน้ำด้วยเรือลายมังกร เสวยอาหารด้วยโต๊ะลายมังกร และบรรทมบนเตียงนอนลายมังกรด้วยเช่นกัน
มังกรจีนโบราณในตำนาน
เมื่อ 4,000 ปี ก่อนหน้านี้ ตำนานมังกรจีนโบราณได้กล่าวถึงรูปร่างลักษณะของมังกรจีนว่า มีอยู่หลากหลายแบบ แล้วแต่ที่นักวาดรูปจะสร้างสรรออกมา จินตนาการของนักวาดรูปโบราณได้ถูกถ่ายทอดกันมารุ่นสู่รุ่น โดยมีการยึดถือเอาลักษณะรูปแบบที่คนรุ่นก่อนเล่าต่อ ๆ กันมา ซึ่งเล่ากันไว้ว่า มังกรจีนมีลักษณะลำตัวที่ยาวคล้ายงู มีเกล็ดปกคลุมลำตัวเป็นสีเขียว มีดวงตาสีแดง มีหนวดหนึ่งคู่ มีเขาหนึ่งคู่ มีขา 4 ขา และมีกงเล็บที่แข็งแรง ด้วยลักษณะอันน่าเกรงขามนี้ จึงทำให้มังกรจีนโบราณถูกยกย่องให้เป็นสัตว์ของเทพเจ้าที่ชาวจีนยกย่องและเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เทพเจ้าในลัทธิเต๋ามีสัตว์พาหนะเอาไว้เพื่อทำหน้าที่คุ้มครองปราสาทของเทพเจ้าที่อาศัยอยู่บนสรวงสวรรค์ มังกรจีนที่มีกงเล็บ 5 เล็บ จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งจักรพรรดิ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ มังกรจีนบางตัวจะมีไข่มุกเม็ดใหญ่อยู่ที่ขาหน้า ทำให้บางคนคิดว่าไข่มุกเม็ดนี้ คือ ไข่ของมังกร ในขณะที่ มังกรบางตัว จะวางไข่ใบนี้เอาไว้ในน้ำไหล